วันนี้ (18 ธ.ค.) มีการแจ้งว่า จะมีการลำเลียงขนยาเสพติดจากชายแดนเข้ามาในพื้นชั้นในจ.เชียงราย จึงมีการตั้งจุดตรวจสกัดกั้นในเส้นทางระหว่าง บ.หัวแม่คำ-บ.ม้งเก้าหลัง หมู่ที่ 4 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ขณะที่ตั้งจุดสกัดกั้นอยู่นั้น มีรถยนต์กระบะ โตโยต้าไทเกอร์ หมายเลขทะเบียน บพ 61 เชียงราย สีเทา วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงโบกแสดงตัวขอตรวจค้น แต่คนขับรถกลับเร่งความเร็วฝ่าด่านไป เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปประมาณ 1-2 กม. และพบรถต้องสงสัยจอดทิ้งไว้บนถนนระหว่างหมู่บ้าน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถ พบกระสอบปุ๋ยสีฟ้าอยู่ด้านหลังเบาะคนขับ 1 กระสอบ
ตรวจสอบภายในพบยาบ้า จำนวน 2 มัด มัดละ 50 ก้อน ก้อนละ 2,000 เม็ด รวมประมาณ 200,000 เม็ด จึงตรวจยึดพร้อมรถยนต์ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อขยายผลติดตามเจ้าของมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีที่มีการพบศพของ นางรัศมี มุลิจันทร์ หรือฝ้าย อายุ 51 ปี แม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่ง ถูกฆ่าเปลือยภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (18 ธ.ค.) พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 กล่าวว่า หลังถูกจับกุม นายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ฆ่านางรัศมี และอดีตฆาตกรต่อเนื่อง โดยนายสมคิด ยอมรับว่าทำลงไปเพราะบันดาลโทสะ
นายสมคิดบอกกับตำรวจว่า ไม่ได้ตั้งใจฆาตกรรม เนื่องจากวันเกิดเหตุทะเลาะกับนางรัศมีอย่างรุนแรง จนเป็นที่มาของการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ โดยผู้ต้องหาไม่ได้เตรียมการอะไร ซึ่งหลังก่อเหตุก็หลบหนีไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย โดยจากการพูดคุยส่วนตัว นายสมคิดบอกว่า “ไม่ได้รู้สึกเสียใจ และไม่กลัวตาย จะโดนโทษประหารหรือยังไงก็ได้ เพราะสักวันหนึ่งก็ต้องตายอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากนายสมคิดก่อเหตุแล้ว ก็ได้ใช้รถจักรยานยนต์ของนางรัศมีหนีไปจากอ.กระนวนไปยังอ.เมืองขอนแก่น ก่อนไปนอนค้างคืนที่โรงแรมในมหาสารคาม 1 และในคืนวันที่ 2 ได้ไปนอนที่โรงพยาบาลในจ.บุรีรัมย์
จากนั้นก็ได้เตรียมตัวขึ้นรถไฟหลบหนีจากจ.บุรีรัมย์ไปยังจ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนพลเมืองดีจะแจ้งข้อมูล จนเป็นที่มาการจับกุมตัวได้ โดยก่อนหน้านี้ นายสมคิดออกมาจากเรือนจำเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ก่อนมาจีบนางรัศมีที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก จนคบหาดูใจกัน
ทั้งสองคนมีโครงการจะแต่งงานกัน จนกระทั่งวันเกิดเหตุก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนนายสมคิดเกิดความโมโห จึงฆาตกรรมนางรัศมี ส่วนพฤติการณ์ของนายสมคิดนั้น มักจะฆาตกรรมผู้หญิงให้บริการและหมอนวดเป็นส่วนใหญ่ เวลาเกิดความโมโห โดยจะไม่ใช้อาวุธปืนหรือมีดในการฆาตกรรม แต่จะใช้อุปกรณ์ที่หาได้ภายในบ้านหรือเป็นการแสวงเครื่องหาสิ่งของใกล้ตัวลงมือ
ม.1 แค้นถูกเพื่อนล้อเป็นตุ๊ด-ตบหัว ใช้ปืนยิงดับหน้าห้องเรียน
ม.1ยิงเพื่อน – การล้อหรือกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนมักเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ และคนที่ถูกกระทำใช่ว่าจะทนได้ทุกคน ดังจะเห็นได้จากคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น วันที่ 18 ธันวาคม ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง บริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี-สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี
จุดเกิดเหตุคือ หน้าห้องเรียนชั้น ม.1/2 ชั้น 5 เรื่องถูกเล่าผ่านเด็กชาย เอ อายุ 12 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกจับกุมได้ระหว่างหลบหนี ระบุว่า ตนได้แอบขโมยปืนขนาด 7.6 ของพ่อมายิงเด็กชาย บี เพื่อนร่วมชั้น เนื่องจากแค้นที่ถูกทำร้ายร่างกาย และถูกล้อว่าเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ มาตั้งแต่ต้นเทอม
ช่วงเกิดเหตุ หลังจากเคารพธงชาติเสร็จ เด็กชายเอ สวมชุดเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล อาศัยจังหวะเด็กชาย บี กำลังนั่งถอดรองเท้าอยู่หน้าห้องเรียนยิงเข้าที่หน้าผาก 1 นัด จากนั้นเด็กชายเอได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักเรียน และพยายามจะหลบหนีแต่ถูกจับกุมตัวไว้ได้
ขณะที่เด็กชายบีที่ถูกยิง แผลกระสุนทะลุท้ายทอย นอนหายใจรวยริน แม้พยายามช่วยชีวิตแต่ไม่สำเร็จ เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
จับสมคิด พุ่มพวง – วันที่ 18 ธันวาคม คืบหน้าการจับกุมนายสมคิด พุ่มพวง อายุ 55 ปี ฆาตกรต่อเนื่องสาว 5 ศพ ฉายา “แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ เมืองไทย” หรือ “คิด เดอะ ริปเปอร์” หลังฆ่าเหยื่อรายที่ 6 นางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี อาชีพแม่บ้านโรงแรม ถูกฆ่า ภายในบ้านหลังหนึ่ง ณ ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
เมื่อประมาณช่วงใกล้เที่ยงของวันนี้ ชุดตำรวจเข้าจับกุมนายสมคิดคาโบกี้รถไฟสถานีปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยได้เบาะแสจากพลเมืองดีที่เห็นนายสมคิดแล้วจดจำได้
ล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นำเจ้าหน้าที่แถลงข่าวการจับกุมนายสมคิด เบื้องต้นตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
นายสมคิดอ้างว่าที่ลงมือฆ่าเหยื่อรายที่ 6 ซึ่งคบหากันได้ประมาณ 1 เดือน เพราะวันเกิดเหตุทะเลาะกันรุนแรงจนเกิดบันดาลโทสะ หลังจากลงมือแล้ว ได้หลบหนีอย่างไร้จุดหมายแน่นอน ไปยังจังหวัด มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ก่อนจะตีตั๋วไปอยุธยา แต่มาถูกจับกุมได้ที่สถานีปากช่องเสียก่อน
เพราะจุดจบของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์กำลังมาถึงในไม่ช้านี้ ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ หลังจากที่ผมได้พูดญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจบ ผมจะขออนุญาตให้ ท่านสุทิน คลังแสง เป็นผู้อภิปรายขยายประเด็นของผมในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร