คลังเตือน เร่งใช้เงิน เราชนะ ผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว 23.6 ล้านคน จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด 33.2 ล้านคน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง
เปิดเผยความคืบหน้าการใช้จ่ายของโครงการเราชนะณวันที่16 มิถุนายน 2564 ซึ่งมีการใช้จ่ายแล้ว รวมทั้งสิ้น 269,318 ล้านบาทโดยแยกได้ ดังนี้
1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคนได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน100,590 ล้านบาท
2) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่งและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ https://www.xn--b3c4a2a6ch6f.com/ ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้วจำนวน17.1 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน148,355 ล้านบาท
3) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 20,373ล้านบาท
ผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้วจำนวน 23.6 ล้านคนจากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด 33.2 ล้านคน
สุดท้ายนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำว่า โครงการเราชนะจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ขอให้ประชาชนที่ยังมีวงเงินสิทธิ์เหลือสำรวจวงเงินสิทธิ์คงเหลือของท่านและวางแผนใช้จ่ายให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
หนึ่งในหลายๆ มาตราการระยะสั้น ล่าสุด สถานธนานุเคราะห์ หรือ โรงรับจำนำรัฐ จัดโปร ลดดอกเบี้ย50% ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันนี้ (16 มิ.ย. 64) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโรงรับจำนำของรัฐ ผ่านเฟซบุ๊ก รัชดา ธนาดิเรก – รองโฆษกรัฐบาล ระบุ โรงรับจำนำรัฐ จัดโปร ลดดอกเบี้ย50% ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือ โรงรับจำนำ ของรัฐ ทั้ง 40 แห่ง ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่มีรายได้น้อย ด้วยการแบ่งเบาภาระรายจ่ายดอกเบี้ย ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19
โดยจัดโปรโมชั่น “จ่ายคนละครึ่ง” ลดดอกเบี้ย 50% แก่ผู้มาใช้บริการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินจำนำไม่เกิน 5,000 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2564 ( จำกัด1 คน 1 สิทธิ์ ต่อ 1 รอบตั๋วจำนำ)
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการที่ไม่สะดวกเดินทางมาส่งดอกเบี้ยที่สาขา สามารถส่งดอกเบี้ยผ่านช่องทาง 7-11 หรือ กรุงไทยNEXT ได้
อนุทิน ฉุน! หลัง ส.ส. จอดรถบนฟุตบาท หน้าพรรค ภูมิใจไทย
อนุทิน เดือด หลัง ส.ส.พรรค ภูมิใจไทย จอดรถบนฟุตบาท หน้าพรรค ขณะที่โฆษกพรรคได้ออกมาขอโทษประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส. จังหวัดอ่างทองพรรคภูมิใจไทย และนายสิริพงศ์อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาขอโทษประชาชนในนามของพรรค หลังจากที่มีภาพ รถ ส.ส.ของพรรคจอดบนทางเท้า หน้าพรรคภูมิใจไทย
โดยเบื้องต้นสมาชิก ได้ชี้แจงแล้วว่า คนขับรถพอส่งถึงพรรค ก็เอารถไปจอดแบบนั้น ซึ่งเจ้าตัวไม่รับทราบ แต่ก็ถือว่ามีความผิดที่ไม่ได้กำชับคนขับให้ดี
ขณะที่นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรับมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงในฐานะหัวหน้าพรรคทราบข่าว ก็ได้ตำหนิสมาชิกทันที เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดกฎหมายและไม่เหมาะสม ยิ่งในโอกาสแบบยิ่งไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน พรรคจึงต้องออกมาออกมาขอโทษประชาชน
ล่าสุดผู้ที่เป็นเจ้าของรถได้ให้คนขับรถไปเสียค่าปรับ 2000 บาท เรียบร้อย พร้อมยืนยัน จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
แต่พอตัวบทแบบนี้มาอยู่ในประเทศนี้ ที่มีอุดมการณ์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยกำกับอยู่ เราจึงเห็นแนวโน้มการใช้ 112 แบบกว้างขวางมาก จนเราไม่รู้เลยว่าองค์ประกอบเงื่อนไขมันอยู่ตรงไหน จนเราไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วเราพูดอะไรได้บ้าง เราแสดงเสรีภาพตรงไหนได้บ้าง จนเกิดความพร่าเลือนไม่ชัดเจนว่าความผิดฐาน 112 แบบไหนเรียกว่าผิด แบบไหนเรียกว่าไม่ผิด
เราเห็นตัวอย่างกันอยู่บ่อยครั้ง การแสดงออกซึ่งไม่เข้ากรอบความผิดเลย แต่ศาลก็ตีความว่าเป็นความผิด ถ้าอุดมการณ์ที่ฝังรากลึกอยู่ในประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยจริง มาตรา 112 จะมีไว้แต่อาจจะไม่ใช้ก็ได้ มันอาจจะกลายเป็นกฎหมายที่นอนหลับอยู่เฉยๆ
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร